หน้าเว็บ

วันพุธที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2554

อายุ 5 เดือน

จากเดือนที่ 4 ที่แม่ได้เริ่มให้อาหารเล็กๆน้อยๆกับลูก นับตั้งแต่ข้าวบดผสมน้ำซุป ข้าวบดกับไข่แดงต้มสุก กับตับต้มสุก กับปลาน้ำจืด หรือไก่ต้มหรือนึ่งสุก โดยเริ่มจากเพียง 1 ช้อนชา เป็น 1 ถ้วยเมื่ออายุครบ 6 เดือน ในระหว่างการให้อาหารเพื่อความคุ้นเคยนี้ ก็จะมีการให้ผักต้มจนนุ่มหลายชนิดหมุนเวียนสลับกันไปด้วย เช่น ตำลึก ฟักทอง ฟักเขียว กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก แครอท มะเขือเทศ บดผสมกับอาหาร ในเดือนนี้แม่จะให้น้ำผลไม้คั้น 1-2 ออนซ์ก็ได้
            แม่ดูแลเรื่องอาหารให้ลูกน้อยเป็นอย่างดี และค่อยๆ เพิ่มชนิดอาหารและผลไม้มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เดือนนี้ลูกรู้จักรสชาติของอาหารเพิ่มขึ้น แม้ว่าการกินอาหารของลูกยังเป็นเพียงอาหารเสริม แต่ในเดือนต่อไปลูกพร้อมที่จะกินอาหารแทนนมหนึ่งมื้อ

เมื่อลูกอายุ 4 เดือน

ในวัย 4 เดือนนี้แม่หลายคนได้ให้อาหารเสริมแก่ลูกแล้ว แม้ว่าองค์การอนามัยโลกได้ทำการวิจัยและพบว่า ลูกไม่จำเป็นต้องกินอาหารใดๆ ที่นอกเหนือไปจากนมแม่จนกว่าลูกจะมีอายุ 6 เดือน เพราะในเวลานั้นร่างกายของลูกได้มีพัฒนาการจนพร้อมรับอาหารชนิดอื่น แต่การให้อาหารแก่ลูกในวัยนี้ ได้กลายเป็นความเคยชินที่ปฏิบัติกันมาจากรุ่นสู่รุ่นมานานแล้ว แม่หลายคนมักกลัวว่าหากให้อาหารช้าไปลูกจะขาดสารอาหาร และจะกลายเป็นอุปสรรคต่อพัฒนาการและการเจริญเติบโตของลูก ความจริงแล้วหากจะให้อาหารกับลูกในวัย 4 เดือน ก็อาจเป็นไปเพียงเพื่อฝึกให้ลูกได้เรียนรู้ถึงรสชาติของอาหารอื่นๆ ที่แตกต่างจากนม เพื่อเตรียมพร้อมที่จะรับอาหารเต็ม 1 มื้อ เมื่อถึงอายุ 6 เดือน
            อาหารที่จะให้ลูกในวัย 4 เดือนนี้ควรเป็นอาหารอ่อนๆ เช่น ข้าวต้มบดละเอียดกับน้ำซุปให้มีลักษณะเหลวคล้ายน้ำนม ในครั้งแรกนี้ป้อนเพียง 1 ช้อนชา เมื่อร่างกายลูกยอมรับอาหารจึงค่อยๆ เพิ่มเป็น 1-2 ช้อนโต๊ะ การให้อาหารลูกนั้นควรให้อาหารชนิดเดียวกันตลอดสัปดาห์โดยไม่ต้องปรุงรส เพื่อลูกจะได้รู้รสชาติและคุ้นเคยกับอาหารชนิดนั้นๆ และไม่ติดรสหวานหรือรสเค็ม หรือถ้าเป็นผลไม้อาจให้มะละกอสุกๆ กล้วยสุกๆ มะม่วงสุกๆ ขูดเนื้อเล็กน้อยผสมกับน้ำต้มสุกที่เย็นแล้ว 1 ช้อนชา หรือน้ำส้มคั้น 1 ช้อนชาผสมกับน้ำต้มสุกที่เย็นแล้ว 1 ช้อนชา การให้น้ำส้มคั้นในเด็กเล็กต้องระวังในเรื่องความสะอาดอย่างยิ่ง เพราะถ้าไม่สะอาดพอ ลูกจะท้องเสียได้ การท้องเสียในเด็กทารกเป็นเรื่องที่เป็นอันตรายมากกว่าเป็นในผู้ใหญ่มาก เพราะลูกยังเล็ก ความต้านทานต่อสิ่งแปลกปลอมมีน้อย ร่างกายของลูกก็ยังไม่แข็งแรงพอที่จะรับความเจ็บป่วยได้มากนัก แต่ถ้าลูกไม่พร้อมที่จะรับอาหาร ก็ไม่ต้องบังคับ รออีกสัก 1-2 สัปดาห์ค่อยเริ่มใหม่ เพราะนี่เป็นเพียงประสบการณ์ที่แม่อยากจะสร้างให้ลูก ถ้าเป็นเรื่องโภชนาการแล้ว ลูกยังต้องการเพียงนมแม่เท่านั้น

อาหารของลูกแรกเกิดถึง 4 เดือน

เมื่อลูกถือกำเนิดมาจากครรภ์ของแม่ อาหารแรกที่ลูกควรได้รับ คือน้ำนมจากอกแม่ซึ่งเป็นสิ่งที่ธรรมชาติให้มาพร้อมกับกำเนิดของมนุษย์ การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จึงเป็นเรื่องธรรมดาของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ธรรมชาติได้สร้างคุณค่าในน้ำนมอย่างมหาศาลและเพียงพอที่จะเลี้ยงชีวิตน้อยๆ ของลูกให้เติบโต มีพัฒนาการที่สมบูรณ์อย่างเต็มวัยเท่าที่ลูกมนุษย์จะสามารถเป็นไปได้ ในน้ำนมแม่จึงมีสารอาหารที่ครบถ้วนในปริมาณที่พอเหมาะกับลูก มีภูมิต้านทานโรคและที่น่ามหัศจรรย์คือสารอาหารในนมแม่ยังเปลี่ยนแปลงไปตามความเหมาะสมที่จะเลี้ยงลูกในแต่ละวัยได้อย่างสมบูรณ์ จนลูกสามารถกินนมแม่เพียงอย่างเดียวโดยไม่ต้องเสริมอาหารอื่นใด ได้นานถึง 6 เดือน  จนกว่าอวัยวะต่างๆ ของลูกที่ใช้ในการย่อยอาหารจะแข็งแรง พร้อมที่จะรับอาหารชนิดอื่นได้ หลังจากนั้นน้ำนมแม่ก็จะยังคงเป็นแหล่งอาหารเสริมที่สำคัญให้ลูกต่อไปได้อีกจวบจนลูกอายุได้ 2 ขวบ ลูกที่มีโอกาสได้กินนมแม่เช่นนี้มักจะแข็งแรง ไม่อ้วน และไม่ผอมจนเกินไป
            การเริ่มต้นให้ลูกได้ดูดนมจากอกแม่แต่เนิ่นๆ นี้ จะมีผลดีต่อทั้งลูกและแม่ คือเป็นการช่วยเรื่องการปรับตัวต่อสิ่งแวดล้อมใหม่ของลูก และยังจะทำให้ลูกดูดนมได้ดีกว่าเด็กที่เริ่มดูดนมแม่ช้า ให้ลูกดูดนมแม่บ่อยๆตามที่ลูกต้องการใน 24 ชั่วโมงแรก และใน 3 วันแรกนี้ แม้ว่าลูกจะเอาแต่นอน ก็ควรจะปลุกให้กินนมทุก 2 ชั่วโมง การให้ลูกดูดนมแม่เป็นการกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนในตัวแม่ด้วย ทำให้ร่างการของแม่สร้างน้ำนมเร็วขึ้นและมีปริมาณมากพอกับความต้องการของลูก ทั้งยังช่วยกระตุ้นการหดตัวของมดลูก ทำให้น้ำคาวปลาออกมาดี แม่จึงรู้สึกปวดมดลูกขณะให้นมลูก
            การให้นมแก่ลูกในแต่ละครั้งนั้น ในน้ำนมจะมีสารอาหารที่แตกต่างกัน น้ำนมระยะต้นหรือน้ำนมส่วนแรกที่ออกมาก่อน จะอุดมไปด้วยโปรตีน น้ำตาลแล็กโทส น้ำและสารอาหารที่จำเป็นอื่นๆ น้ำนมระยะต้นจึงเป็นน้ำนมที่มีความเข้มข้นมาก ส่วนน้ำนมระยะท้ายจะมีไขมันมากกว่าน้ำนมระยะต้น ซึ่งเป็นส่วนที่ให้พลังงานช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของลูก

วันอังคารที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2554

มาหัดเล่น กีตาร์จิ๋ว Ukulele (อูคูเลเล่) กันค่ะ

อูคูเลเล่ เป็นเครื่องดนตรีประเภทสายจากฮาวาย ที่เรียกได้ว่าหัดเล่นได้ง่ายที่สุดในโลก ไม่เจ็บนิ้วตอนหัดเล่นใหม่ ๆ และสามารถเล่นได้หลากหลายทุกสไตล์เหมือนกับกีตาร์ แถมยังพกพาได้สะดวก ด้วยขนาดที่เล็กกะทัดรัด ซึ่งคอร์ดที่ใช้ ก็จะใช้คอร์ดเหมือนกันกับกีตาร์ ต่างกันแค่วิธีการจับเท่านั้น ดังนั้นเราจึงสามารถใช้อูคูเลเล่ เล่นเพลงทุกเพลงบนโลกใบนี้ ที่มีชื่อคอร์ดกีตาร์ในหนังสือเพลงตามท้องตลาด และในเว็บไซต์ต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย  ดูวิธีเล่นตามลิงค์ข้่างล่างเลยนะคะ
 http://www.youtube.com/watch?v=BT2_L_6V510

การแพ้อาหาร


            เมื่อพูดถึงการแพ้อาหารในเด็กเล็กๆ อาการแพ้อาหารเป็นสาเหตุใหญ่อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ลูกไม่สบายตัวและเกิดความทรมานเช่นเดียวกับผู้ใหญ่ การแพ้อาหารมีสาเหตุหลายประการ ความรุนแรงในการแพ้ก็แตกต่างกัน เด็กบางคนที่พ่อแม่แพ้อาหารบางชนิด ลูกก็มีโอกาสที่จะแพ้อาหารชนิดนั้นๆ ด้วย โปรตีนเป็นอาหารอีกชนิดหนึ่งที่เด็กเล็กๆ แพ้ได้ง่าย
            ในนมมีโปรตีน แต่โปรตีนที่ได้จากนมแม่จะไม่ทำให้เกิดการแพ้ เว้นแต่ว่าแม่ได้กินอาหารบางอย่างที่ลูกแพ้ แล้วให้ลูกกินนมแม่ ก็จะทำให้ลูกเกิดอาการแพ้ได้ มีเด็กหลายคนที่แพ้นมวัว ทั้งนี้เพราะกระเพาะอาหารของลูกยังไม่มีน้ำย่อยที่จะสามารถย่อยโปรตีนในนมวัวได้ จึงแสดงอาการแพ้ออกมา ความรุนแรงของอาการก็จะแตกต่างกันไป การหันไปดื่มนมถั่วเหลืองแทนจะลดอาการลงได้ แต่ถ้าลูกแพ้มากอาจต้องให้นมชนิดพิเศษที่ผ่านการย่อยโปรตีนให้มีขนาดเล็กลงแล้ว
            ไข่ โดยเฉพาะไข่ขาว ซึ่งเป็นส่วนที่มีโปรตีนมาก มักทำให้เกิดภาวะแพ้ได้ ฉะนั้นในการเริ่มให้ไข่แก่ลูกควรเริ่มจากไข่แดงก่อน เมื่อให้ลูกกินไประยะหนึ่งแล้วไม่เกิดการแพ้ก็ค่อยเริ่มให้ไข่ขาวร่วมด้วย โดยเริ่มแต่น้อยก่อนจนถึงให้ไข่ทั้งฟอง แต่ถ้าให้แต่ไข่แดงแล้วยังเกิดการแพ้ขึ้น ควรงดไข่ไปเลยจนกว่าลูกจะโตกว่านี้
            อาหารทะเล เป็นอาหารที่มีการแพ้มาก แม้ในผู้ใหญ่เองก็แพ้อาหารทะเลได้มากเหมือนกัน เมื่อจะเริ่มให้อาหารประเภทปลากับลูก ควรให้ปลาน้ำจืดก่อนแล้วจึงค่อยให้ปลาทะเลทีละน้อย เมื่อลูกมีอายุ 10 เดือน หรือ 1 ขวบไปแล้ว ถ้าลูกไม่มีอาการแพ้ก็สามารถให้ต่อไป และค่อยลองเปลี่ยนเป็นอาหารทะเลชนิดอื่นๆ แต่ถ้าลูกแสดงอาการแพ้ ควรงดไปเลยจนกว่าลูกจะโตเลย  3 ขวบไปแล้ว อาจลองให้กินใหม่ได้ แต่ถ้ายังแพ้อีก ก็งดไปเลย เพราะลูกอาจแพ้อาหารทะเลจริงๆ
            สำหรับอาหารประเภทแป้งและถั่วก็อาจมีการแพ้ได้เหมือนกัน แต่มีจำนวนน้อย แม่ต้องสังเกตว่าลูกเราแพ้อาหารชนิดไหน จะได้หลีกเลี่ยงเสีย
            อาการแพ้อาหารในแต่ละคนจะแสดงออกมาไม่เหมือนกัน บางคนแพ้รุนแรง บางคนก็แพ้เพียงเล็กน้อย อาการที่แสดงออกมีตั้งแต่เป็นผื่นคัน บวมแดงตามใบหน้า ลำตัว บางคนจะไอ จาม คัดจมูก น้ำมูกใสๆ ไหลออกมา บางคนมีอาการบวมทีปาก ตา แน่นหน้าอกหายใจไม่สะดวก บางคนความดันต่ำลง ซึ่งถ้ารุนแรงก็ถึงกับช็อกได้ ซึ่งถ้าลูกแพ้มากควรรีบพาไปพบแพทย์เพื่อแก้ไขทันที

ผู้ติดตาม